ญี่ปุ่นและจีนมีประวัติศาสตร์อันยาวนานในการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมประเพณีต่างๆ มากมาย และในทุกวันนี้เราจะสามารถพบเห็นผู้อพยพชาวจีนจำนวนมากและลูกหลานของพวกเขาที่อาศัยอยู่ใน Chukagai (中華街) หรือย่านไชน่าทาวน์ของโยโกฮาม่า โกเบ และนางาซากิ รวมถึงการตั้งถิ่นฐานยุคใหม่ในย่านอิเคะบุคุโระกรุงโตเกียว
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาญี่ปุ่นเพื่อซื้อสินค้าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และก่อนเทศกาลตรุษจีนปีนี้ บริษัทต่างๆ ก็กำลังพัฒนาในสิ่งต่างๆ เพื่อให้ทุกอย่างง่าย สะดวก และตอบโจทย์รูปแบบการใช้ชีวิตของนักท่องเที่ยวชาวจีนได้มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ร้านสะดวกซื้อลอว์สันเริ่มรับชำระเงินผ่าน Alipay แอพกระเป๋าเงินมือถือจากอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่อาลีบาบาของจีน
แม้ว่าตรุษจีนจะไม่ใช่วันหยุดในญี่ปุ่น แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคใดๆ ของลูกหลานชาวจีนในญี่ปุ่น ตัวอย่างเช่น ในโยโกฮาม่ามีเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ 15 วันที่คุณสามารถชมการเชิดสิงโตและมังกร การแสดงดนตรีดีดพิณ การแสดงผาดโผน ขบวนพาเหรดด้วยเสื้อผ้าวัฒนธรรมจีนแบบดั้งเดิม การแสดงสดไทเก็ก ประทัดและดอกไม้ไฟแห่งการเฉลิมฉลอง แผงลอยขายอาหารจีนและสินค้าจีนอื่นๆ เรียงรายตามท้องถนน รวมทั้งตะเกียงนับพันในวันสุดท้ายของเทศกาล
ปีใหม่ของชาวจีนทางจันทรคติเรียกว่า “เทศกาลฤดูใบไม้ผลิ (春節)” เป็นประเพณีเพื่อการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ของชาวจีนทั่วโลก รวมถึงที่โยโกฮาม่าไชน่าทาวน์ (横浜中華街) อันเป็นชุมชนชาวจีนที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นจาก 3 ย่านไชน่าทาวน์…ย่านนันคินโจหรือนันคินมัทจิไชน่าทาวน์ ในโกเบ (神戸南京町) และชินจิไชน่าทาวน์ในนางาซากิ (長崎新地中華街) หรือที่รู้จักกันในนามว่า Big Three Chinatowns in Japan (日本三大中華街) ก็ได้มีการจัดงาน “เทศกาลฤดูใบไม้ผลิ” มาตั้งแต่ปี 1986 หลังจากที่รัฐบาลญี่ปุ่นได้มีการเปิดท่าเรือหลักเพียงไม่กี่แห่งให้กับชาวต่างชาติในปี 1859 จนถึงปลายยุคเอโดะ พ่อค้าและคนงานชาวจีนต่างก็แห่กันไปที่โยโกฮาม่าซึ่งเป็นท่าเรือเปิดใหม่ที่ใกล้ที่สุดอันเป็นโอกาสทางธุรกิจมากมายสำหรับพ่อค้าชาวจีน รัฐบาลในยุคเอโดะได้จัดพื้นที่ส่วนหนึ่งให้กับพวกพ่อค้าชาวจีน แต่ในไม่ช้ามันกลับกลายเป็นชุมชนของผู้อพยพชาวจีนที่ต้องการพื้นที่เป็นของตัวเองอย่างชัดเจน ซึ่งพวกลูกหลานชาวจีนก็สามารถทำการค้าขายทางธุรกิจกับญี่ปุ่นไปพร้อมๆ กับการรักษาประเพณีโบราณไว้ได้เป็นอย่างดี
วันนี้โยโกฮาม่าไชน่าทาวน์เป็นพื้นที่ที่เจริญรุ่งเรืองเต็มไปด้วยร้านอาหารจีนและแหล่งช้อปปิ้งมากมายได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งแน่นอนว่าลูกหลานชาวจีนก็ยังคงรักษารูปแบบการค้าขายในแง่ของการใช้ภาษาจีนเป็นหลักในการสื่อสารที่ถ่ายทอดและเชื่อมโยงเข้ากับประเพณีจีนโบราณไว้อย่างมีชีวิตชีวา
ความเชื่อและโชคลางปีใหม่จีน
ตรุษจีนเป็นงานเฉลิมฉลองที่เกิดขึ้นจากดวงจันทร์เริ่มโคจรใหม่ครั้งแรกระหว่างกลางเดือนมกราคมถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ เป็นเทศกาลที่ให้เกียรติแก่ประเพณีเก่าแก่และตระกูลบรรพบุรุษรวมถึงเฉลิมฉลองฤดูใบไม้ผลิที่กำลังจะมาถึง มีประเพณีและความเชื่อโชคลางมากมายที่เกี่ยวข้องกับการเฉลิมฉลองปีใหม่ที่ย้อนกลับไปยังตำนานจีนสมัยก่อน
สิ่งหนึ่งที่พวกเราอาจสังเกตเห็นจากเพื่อนชาวจีนที่อาศัยอยู่ในย่านไชน่าทาวน์คือทุกคนจะเริ่มทำความสะอาดบ้านก่อนปีใหม่เพื่อล้างความโชคร้ายใดๆ จากปีที่ผ่านมาและทำให้มีที่ว่างสำหรับความโชคดีที่จะเข้ามาเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ได้อีกครั้ง ด้วยเหตุนี้เราจะพบว่าประตูและหน้าต่างจะถูกเปิดในช่วงเวลานี้เพราะพวกเขาทุกคนมีความเชื่อว่าเป็นการต้อนรับหรือเชื้อเชิญความโชคดีเข้ามาในบ้านของพวกเขา การไปเยี่ยมครอบครัวและเพื่อนๆ และให้เงินกับเด็กๆ ซึ่งผู้เฒ่าผู้แก่มักจะให้ซองสีแดงนำโชคซึ่งบรรจุเงินสดแก่เด็กและผู้ใหญ่ที่ยังไม่ได้แต่งงานและอายุน้อยกว่าพวกเขาที่เรียกว่า “อั่งเปา (紅包)”
นอกจากหน้าต่างและประตูที่เปิดในช่วงเวลานี้ของปี เราอาจสังเกตเห็นว่าสีแดงปรากฏขึ้นทุกหนทุกแห่งแบบไม่มีความบังเอิญ…คอนเฟิร์มครับผม! หลายคนจะแต่งชุดงานรื่นเริงด้วยโทนสีแดง รอบๆ บ้านก็ประดับประดาของตกแต่งที่มีสีแดงเนื่องจากตำนานจีนโบราณเชื่อกันว่าสีนี้เป็นสัญลักษณ์ของความโชคดีและเชื่อว่าจะช่วยขจัดความชั่วร้าย
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต้องห้ามจำนวนมากในช่วงปีใหม่เพราะคำเหล่านั้นมีความหมายเชิงลบในภาษาจีน เช่น การซื้อรองเท้า ในช่วงต้นปีใหม่ก็ไม่ควรสระผมหรือตัดผมเพราะเชื่อว่าเป็นการล้างนำเอาความโชคดีออกไปและความโชคดีใดๆ ที่แนบมากับเส้นผมของคุณก็จะหายไปถ้ามันถูกตัด
บ้านหลายหลังของชาวจีนจะใช้โคมไฟสีแดงขนาดใหญ่ เพื่อส่องสว่างห้องและทางเข้าในช่วงวันตรุษจีน โดยโคมไฟขนาดใหญ่หมายถึง “ความเจริญรุ่งเรืองและความโชคดี” และสีแดงคือ “สีที่แสดงความยินดีที่ดีที่สุดที่นำความสุขมาให้”
อีกสิ่งหนึ่งสำหรับของตกแต่งที่ขาดไม่ได้เลยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวันตรุษจีนคือ “การพลิกโชคลาภ (逆さ福字)” เป็นของตกแต่งที่เขียนตัวอักษรขนาดใหญ่ว่า “ฟุคุ (福)” แบบกลับหัวและติดที่ประตูหรือผนังของบ้าน จากการออกเสียงในภาษาจีนทำให้มีความหมายว่า “โชคลาภตกจากสวรรค์” โดยบ้านหลายหลังของชาวจีนจะติดป้ายตัวอักษรกลับหัวนี้ตลอดทั้งปี
ถ้าพูดถึงของกินวันส่งท้ายปีเก่าของครอบครัวชาวญี่ปุ่นต้องเป็น “โทชิโคชิ โซบะ (年越しそば)” แต่ถ้าเป็นครอบครัวของชาวจีนต้องยกให้ “เกี๊ยวซ่าปีใหม่ (年越し餃子) หรือ สะระโทชิ เกี๊ยวซ่า (更歳餃子)” ที่ร่วมรับประทานกันเป็นจำนวนมาก ทั้งครอบครัว ด้วยรูปลักษณะของเกี๊ยวซ่าที่คล้ายกับเงินจีนในสมัยโบราณที่เรียกว่า “หยวนเป่า (元宝) หรือออกเสียงแต้จิ๋วว่า ง้วนป้อ” ถือว่าเป็นอาหารที่นำพาความโชคดี เช่น เหรียญ, ถั่วลิสง, เกาลัด, พุทราและอื่นๆ รวมทั้งโชคชะตาของปีด้วยความหมายของไส้ต่างๆ ในเกี๊ยวซ่า
ต้นส้มจีนไม้มงคล ที่ออกเสียงตามภาษาญี่ปุ่นว่า “คิงคัง (金柑)” ที่ลูกหลานชาวจีนถือว่าเป็นต้นไม้แห่งความโชคดี จะนำมาวางไว้ที่ทางเข้าหรือระเบียงของบ้าน ของร้านค้า และบนกิ่งไม้จะติดซองสีแดงที่เรียกว่า “อั่งเป่า (紅包)” หมายถึง “ต้นไม้มงคลที่นำโชคและความมั่งคั่งมาให้”
การฉลองตรุษจีนในญี่ปุ่นปี 2020
ความสำคัญที่เป็นสัญลักษณ์ของสัตว์จักรราศีจีนตามจันทรคติยังคงผูกพันและเชื่อมโยงเข้ากับการเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนปีใหม่ของลูกหลานชาวจีนในญี่ปุ่นที่พวกเขารักษาไว้อย่างเหนียวแน่นมาจนถึงทุกวันนี้
เทศกาลฤดูใบไม้ผลิหรือวันตรุษจีนของชาวจีนในปี 2020 ตรงกับวันเสาร์ที่ 25 มกราคม เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเทศกาลฤดูใบไม้ผลิเมืองโยโกฮาม่าไชน่าทาวน์ ที่มีชื่อธีมงานว่า “Chinese Spring Festival 2020” จะเริ่มต้นขึ้นจากการนับถอยหลังในเที่ยงคืนของวันศุกร์ที่ 24 มกราคม ที่โยโกฮาม่าคันเตเบียวและโยโกฮาม่า มาซุ เมียว (関帝廟と横濱媽祖廟) ท่ามกลางเสียงของประทัด ฉิ่ง กลอง และฆ้องจีน ตามด้วยการเชิดสิงโตและมังกรในช่วงบ่ายของวันเสาร์ที่ 25 มกราคมไปจนถึงสองทุ่ม ในทุกพื้นที่ของเมืองโยโกฮาม่า โดยสิงโตจะสวดภาวนาเพื่อความเจริญรุ่งเรืองและการเก็บเกี่ยวที่ดี และเต้นรำไปรอบๆ พร้อมคาบซองแดงที่ใส่เงินเป็นของขวัญแสดงความยินดีที่แขวนอยู่หน้าร้าน และเชื่อมเข้าต่อเทศกาลโคมไฟอันศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อธีมงานว่า “2020 Lantern Festival” หรือที่ชาวจีนจะพูดว่า “โกะฟุคุโทมง (五福門)” เพื่อความสุขทุกรูปแบบในการเสริมสร้างชีวิตของทุกคน โดยจะมีข้อความแห่งความปรารถนา ความฝัน การอุทิศตนและส่งความสันติสุขมายังสวรรค์ในวันสุดท้ายของเทศกาลฤดูใบไม้ผลิปีใหม่จีนในวันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ ปี 2020 ณ โยโกฮาม่า มาซุ เมียว (ศาลเจ้าแห่งทะเล) ที่จะทำให้เมืองโยโกฮาม่าไชน่าทาวน์ส่องสว่างไปจนถึงวันอังคารที่ 31 มีนาคม 2020 ในช่วงเวลาบ่ายสี่โมงถึงห้าทุ่มของทุกวัน
โยโกฮาม่าคันเตเบียว ((関帝廟) โยโกฮาม่า มาซุ เมียว (横濱媽祖廟)
ไม่ว่าคุณจะมาที่ญี่ปุ่นเพื่อการทำงานหรือท่องเที่ยวก็ตาม ขอบอกว่าประสบการณ์การฉลองเทศกาลตรุษจีนในญี่ปุ่นเป็นสิ่งที่คุณไม่ควรพลาดเลยจริงๆ ….ลองดูสักครั้งนะครับ เชื่อผม แล้วคุณจะต้องมนต์เสน่ห์ที่จะต้องกลับไปอีกครั้ง…..
ขอบคุณภาพจาก : https://japan-attractions.jp , https://www.yokohamajapan.com , https://www.japanvisitor.com , https://www.rouishin.com , https://tenki.jp , https://www.garche.jp , http://www.pocketpageweekly.com , http://www.yokohama-kanteibyo.com , https://www.photolibrary.jp , https://www.yokohamajapan.com