สงครามกลางเมืองยุคเซ็นโงคุ (戦国時代)

ยุคเซ็นโงคุ เรียกได้ว่าเป็นยุคแห่งสงครามกลางเมืองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคหนึ่งของญี่ปุ่นและเป็นช่วงเวลาที่นองเลือดมากที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้..

“ยุคเซ็นโงคุ (戦国時代)” เรียกได้ว่าเป็นยุคแห่งสงครามกลางเมืองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคหนึ่งของญี่ปุ่น และเป็นช่วงเวลาที่นองเลือดมากที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้  มันเป็นช่วงเวลาของการต่อสู้ของซามูไรเพื่อความยิ่งใหญ่หลังจากที่ประเทศถูกแบ่งออกหลังสงครามโอนิน (応仁の乱)  ทำให้ญี่ปุ่นมีการเปลี่ยนแปลงทางการค้ากับจีนเพื่อสร้างโอกาสใหม่ทั้งทางด้านการเงินและอำนาจทางการเมือง การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงในประเทศตามมา ซึ่งสร้างความตึงเครียดให้กับโชกุนอย่างยิ่ง ความอดอยากและภัยธรรมชาติทำให้ประชาชนลุกขึ้นต่อต้านโชกุน บรรดาไดเมียวหรือขุนนางศักดินาเจ้าผู้ครองแคว้นต่างๆ (大名) ที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อโชกุนและเฝ้ารอโอกาสที่จะได้มาซึ่งอำนาจ  และเวทีเหล่านั้นก็ถูกจัดไว้สำหรับการทำสงครามทั้งหมด

ตั้งแต่ปีค.ศ. 1467-1603 (หรือราวปลายศตวรรษที่ 15 จนถึงปลายศตวรรษที่ 16)  ญี่ปุ่นประสบกับช่วงเวลาที่เจ็บปวดและวุ่นวายที่สุดในประวัติศาสตร์ ในขณะที่อำนาจของผู้สำเร็จราชการยุคมูโรมาจิ (室町幕府)หรือผู้มีอำนาจส่วนกลางถูกยุบ ประเทศถูกแบ่งโดยระหว่างขุนศึกที่บาดหมางกัน และมันคือช่วงเวลาของ “ยุคแห่งสงครามกลางเมืองเซ็นโงคุ (戦国時代)”  ที่กินเวลานานกว่า 130 ปี โดยในยุคนี้ได้เกิดบุคคลที่มีชื่อเสียงเป็นจำนวนมาก ทั้งนักรบซามูไร, นักปราชญ์ หรือสุดยอดนักกลยุทธ์ต่างๆ

โดยก่อนหน้าจะเป็นยุคคามากูระ (鎌倉時代) ในช่วงปีค.ศ. 1185-1333 ที่มีอำนาจการปกครองอยู่ภายใต้ตระกูลมินะโมะโตะ (源氏) ต่อมาตระกูลมินะโมะโตะเริ่มเสื่อมอำนาจลง และถูกคนจากตระกูลอาชิคางะ (足利) ขึ้นมาปกครองบ้านเมืองแทน จนต่อมากลายเป็นยุคมูโรมาจิ (室町時代)ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ในยุคมูโรมาจิ (室町時代)โชกุนคนที่ 8 แห่งตระกูลอาชิคางะมีอำนาจขึ้นมาปกครอง ชื่อของคนๆ นั้นคือ อาชิคางะ โยชิมาสะ (足利義政) และหลังจากนั้นไม่นานรัฐบาลที่ปกครองโดยตระกูลอาชิคางะก็เริ่มเสื่อมอำนาจลงเนื่องจากโยชิมาสะเป็นคนที่ไม่สนใจในงานบ้านงานเมือง  สนใจแต่งเรื่องพิธีชงชาซึ่งเป็นกิจกรรมของชนชั้นสูงในสมัยนั้น จนทำให้ เกิดความไม่พอใจในหมู่ของประชาชนตาดำๆ ทั้งหลาย และในขณะนั้นเองบรรดาเหล่าไดเมียวหรือเจ้าผู้ครองแคว้นต่างๆก็ได้เริ่มรวบรวมประชาชนที่ไม่พอใจต่อรัฐบาลอาชิคางะลุกฮือขึ้นมาต่อต้านรัฐบาล

ไดเมียวเหล่านี้เป็นผู้ที่มีอำนาจโดยมีกองกำลังทหารอยู่ในมือ  ขณะเดียวกันก็มีเหตุการณ์ที่สำคัญอีกอย่างที่สร้างความไม่พอใจให้กับเหล่าไดเมียวเป็นอย่างมากนั่นคือ นโยบายที่ไดเมียวต้องส่งลูกหลานของตัวเองเข้ามาในเมืองหลวงเพื่อเอาไว้เป็นตัวประกัน เพื่อที่โชกุนจะได้สามารถควบคุมบรรดาไดเมียวที่ครองแคว้นต่างๆ ได้ง่ายขึ้น

อาชิคางะ โยชิมาสะ
อาชิคางะ โยชิมาสะ

สงครามโอนิน (応仁の乱)

สงครามโอนิน
สงครามโอนิน

สงครามโอนิน (応仁の乱) เกิดจากการที่ไดเมียวแคว้นต่างๆ ลุกขึ้นต่อต้านรัฐบาลอาชิคางะ (足利) จนเกิดเป็นสงคราม ใหญ่ที่มีผลกระทบกับประเทศเป็นอย่างมากในเวลานั้น  สงครามโอนินเกิดขึ้นราวปี ค.ศ.1467-1478 ในยุคมูโรมาจิ (室町時代)เป็นระยะเวลาประมาณ 11 ปี และผลักดันให้ญี่ปุ่นเข้าสู่สงครามทั้งหมด  มันเป็นความขัดแย้งนองเลือดซึ่งนำไปสู่ยุค เซ็นโงคุ ช่วงเวลาแห่งการต่อสู้ที่ต่อเนื่องระหว่างขุนนางผู้หิวโหยและกระหายอำนาจ  ความรุนแรงทวีมากขึ้นโดยการใช้อาวุธหอกไฟและการยิงกระสุนไฟที่ทรงพลังนำมาจากการค้าร่วมกับจีน  ผลกระทบจากสงครามโอนินทำให้ขุนศึกต่างๆ ได้เห็นโอกาสที่จะสร้างความเป็นใหญ่ให้ตนเอง  เหล่าขุนศึกต่างๆ จึงพากันเมินเฉยต่อรัฐบาลอาชิคางะและเริ่มใช้กำลัง ทางทหารเข้ารุกรานแคว้นต่างๆ เพื่อประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง

กว่าที่รัฐบาลอาชิคางะจะรู้ตัว ก็แทบจะสายไปแล้ว  เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจในขณะนั้นตกต่ำจนเกือบต่ำสุด โชกุน โยชิมาสะ จึงใช้วิธีออกนโยบายขูดรีดเก็บภาษีเพิ่ม เพราะคิดว่าจะหาเงินเข้ากองคลังของรัฐบาลเพื่อที่จะนำเงินและ ทรัพยากรต่างๆ มาต่อต้านบรรดาเหล่าขุนศึกไดเมียว  ผลกระทบที่เกิดจากนโยบายขูดรีดนี้ ทำให้ชาวบ้านที่ยากจนอยู่แล้วยิ่งลำบากมากขึ้น

กำเนิดกลุ่มนักรบศักดิ์สิทธ์ “อิกโกะ-อิกกิ (一向一揆)”

ความน่าเชื่อถือของเหล่าซามูไรชนชั้นสูงและขุนนางที่เป็นผู้นำของประชาชนได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง เพราะประชาชนไม่สามารถไว้ใจพวกเขาในเรื่องของผู้คุ้มครองความปลอดภัยได้อีกแล้ว  ความไม่พอใจของชาวบ้านหรือชาวนาที่ยากจน จึงเกิดการลุกฮือของกลุ่มชาวบ้านรวมตัวกันเป็นกองกำลังอิสระที่มีชื่อเรียกว่า ”กองกำลังอิกกิ (一揆)” กองกำลังนี้ไม่ได้มีจุดประสงค์ในการทำรัฐประหารหรือยึดอำนาจมาเป็นของกลุ่มตน แต่มีจุดประสงค์หลักคือบุกเข้าเมืองหลวงเพื่อปล้นสะดมและนำทรัพย์สินเหล่านั้นมาดำรงชีวิต

ขณะเดียวกันทางเมืองหลวงเกียวโตก็มีการเคลื่อนไหวที่คล้ายกันเพิ่มมากขึ้น แต่ด้วยมุมมองที่แตกต่างกัน ได้มีการก่อตัวเป็นกองทัพของตนเองด้วยกำลังของพระในลัทธิชินโตซึ่งรวมตัวกันโดยใช้ชื่อว่า ”กองกำลังอิกโกะ (一向)”  กองกำลังนี้ เป็นพระที่ได้รับการฝึกฝนเรื่องวิชาการต่อสู้ในหลากหลายรูปแบบ  จุดประสงค์การรวมตัวของกองกำลังอิกโกะนี้ เกิดขึ้น มาเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านจากการถูกโจรปล้นสะดมหรือทหารที่หนีทัพแล้วมาปล้นสะดม  ในที่สุดเมืองหลวงก็ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลอีกต่อไป

ด้วยเหตุทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น จึงได้เกิดสงครามและความรุนแรงในทุกๆ หย่อมหญ้า ทำให้ประเทศญี่ปุ่นได้มีการ เปลี่ยนผ่านของยุคมูโรมาจิ (室町時代)เข้าสู่ยุค “เซ็นโงคุ(戦国時代)

นักรบศักดิ์สิทธ์ “อิกโกะ-อิกกิ
นักรบศักดิ์สิทธ์ “อิกโกะ-อิกกิ

ขอบคุณรูปภาพจาก : https://twitter.com , https://www.pinterest.com , https://www.pinterest , https://ja.wikipedia.org